คอลลาเจนไทป์2คือ collagen type 2 มีสรรพคุณอย่างไร ช่วยบำรุงกระดูก

คอลลาเจนไทป์2คือ

คอลลาเจนไทป์2คือ ชื่อที่ค่อนข้างคุ้นเคย แต่คนอาจไม่รู้ว่า คอลลาเจนชนิดนี้เป็นทางเลือกใหม่ในการป้องกันและดูแลรักษาปัญหาข้อเข่าที่เสื่อม อาการปวดข้อ และช่วยเสริมสร้างสุขภาพข้อเข่าให้แข็งแรงและสมบูรณ์

เนื้อหา

คอลลาเจนไทป์2คือ

Collagen type 2 คือ ส่วนสำคัญของกระดูกอ่อนและหมอนรองกระดูกสันหลัง คอลลาเจน ชนิดนี้แตกต่างจากคอลลาเจนในเนื้อเยื่ออื่นของร่างกาย

คอลลาเจนไทป์ทู คืออะไร Collagen type 2 เป็นโปรตีนที่มีความสำคัญสำหรับโครงสร้างของข้อต่อ และกระดูกอ่อน และกระดูก เป็นโปรตีนที่พบอยู่โดยตรงที่ข้อต่อ ร่วมทั้งพบประมาณ 50 % ของโปรตีนทั้งหมด

ในกระดูกอ่อน(cartilage) เราพบคอลลาเจนไทพ์ทู ได้มากถึง 90 % จากคอลลาเจนทั้งหมด กระดูกอ่อนมีบทบาทสำคัญในการรองรับแรงกระทบในข้อต่อ ช่วยในการเคลื่อนไหว และรองรับน้ำหนัก

คอลลาเจนไทพ์ทู เป็นสารที่สามารถร่างกายสร้างเองตามธรรมชาติ แต่เมื่อเราเกิดเพิ่มขึ้น การสร้างลดลง หน้าที่สำคัญของมันคือการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของข้อต่อ และควบคุมน้ำในข้อให้อยู่ในสถานะสมดุล

ข้อต่อที่ขาด Collagen type 2 จะชะงักในการซ่อมแซมตัวเอง และอาจส่งผลให้เกิดอาการอักเสบของข้อ อาการเริ่มแรกรวมถึงการปวดเล็กน้อย แต่หากปล่อยเป็นไปตามระยะเวลา อาการจะก้าวข้ามไปสู่ระดับรุนแรง และอาจต้องรับการรักษาด้วยการผ่าตัดในผู้ที่มีอาการข้อเสื่อมเรื้อรังนาน

หลักๆ คอลลาเจนมีกี่ชนิด

คอลลาเจนเป็นเส้นใยโปรตีนประเภทหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบราวร้อยละ 6 ของน้ำหนักตัว หรือเทียบเท่ากับ 1 ใน 3 ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย มีบทบาทสำคัญในโครงสร้างผิว กระดูกอ่อน และหลอดเลือด เป็นต้น ปัจจุบันมีคอลลาเจนมากกว่า 18 ชนิด แต่มี 5 ชนิดที่พบมากที่สุดได้แก่

  • คอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen type I) คอลลาเจนชนิดนี้เป็นชนิดที่ร่างกายมีมากที่สุด พบมากถึง 90 % ของคอลลาเจนทั้งหมดในร่างกาย มีบทบาทสำคัญในการสร้างกระดูก เอ็นยึดกล้ามเนื้อ กระจกตา ผิวหนัง และผนังหลอดเลือด ช่วยในการป้องกันไม่ใให้เนื่อธีดขาด ส่งผลให้ผิวกระชับ การเพิ่มคอลลาเจนชนิดที่ 1 ยังช่วยให้จำนวนเซลล์ผิวมีการขยายตัว โดยเกิดการสังเคราะห์เป็นเส้นใยอิลาสตินทำให้ผิวหนังเรากระชับมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันคอลลาเจนชนิดนี้ยังถูกใช้เป็น biomarker ชั้นดีในการตรวจติดตามความเสี่ยงของภาวะการเกิดโรคหัวใจล้มเหลว
  • คอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen type II) คอลลาเจนชนิดที่ 2 มีความยืดหยุ่นมากกว่า คอลลาเจนชนิดที่ 1 และมีหน้าที่ที่แตกต่างจากคอลลาเจนชนิดที่ 1 อย่างชัดเจน ช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์เซลล์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และสร้างกระดูกอ่อน คอลลาเจนชนิดนี้ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวสะดวก ลดอัตราการเสื่อมของกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อ โดยเมื่อทำงานร่วมกับไกลโคสะมิโนไกลแคนจะช่วยชะลอการลุกลามของโรคข้อเสื่อมได้
  • คอลลาเจนชนิดที่ 3 เป็นคอลลาเจนที่มักร่วมกับชนิดที่ 1 โดยมีส่วนเล็กน้อยกว่า พบมากในผนังหลอดเลือด ผิว และกล้ามเนื้อ เฉพาะบริเวณผิวเด็กและผิวที่ยังเป็นแผลสร้างใหม่ การเพิ่มคอลลาเจนชนิดที่ 3 ร่วมกับคอลลาเจนชนิดที่ 1 หรือสารในกลุ่มเฮพาริน จะเสริมสร้างจำนวนเซลล์ไฟโบรบลาส์ ทำให้เนื้อเยื่อมีปริมาณมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ผิวดูกระชับมั่นขึ้น
  • คอลลาเจนชนิดที่ 4 มีลักษณะเฉพาะตัว พบได้เฉพาะในเนื้อเยื่อที่หุ้มกล้ามเนื้อและไขมัน เส้นใยฝอยของเยื่อบุผิวแผ่นบาง ตั้งอยู่บริเวณนอกเซลล์ มีความสำคัญต่อการทำงานของระบบประสาทและเส้นเลือด ร่วมกับการรักษาความสมบูรณ์ของผนังหลอดเลือดในข้อต่อ เป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการป้องกันเซลล์มะเร็งที่มีการลุกลามในร่างกาย
  • คอลลาเจนชนิดที่ 5 เป็นส่วนประกอบสำคัญในเยื่อเซลล์ต่างๆ พบอยู่ในบริเวณเดียวกันกับคอลลาเจนชนิดที่ 1 มักพบในผิวของเซลล์ เส้นผม เนื้อเยื่อทารกในระหว่างการตั้งครรภ์ และรก มีบทบาทในการควบคุมการเจริญเติบโตของเส้นใยภายในชั้นผิว และช่วยจัดระเบียบเซลล์ผิวให้มีความเป็นระเบียบ

ทำไม คอลลาเจนไทพ์ทู ถึงเป็นที่รู้จักมากกว่าไทพ์อื่นๆ

คอลลาเจนเป็นสิ่งคงสภาพที่ร่างกายของเราจำเป็นต้องมี เฉพาะ Collagen Type 2 ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่พบมากในกระดูกอ่อน และข้อต่อ เป็นผู้กระตุ้นการสังเคราะห์เซลล์ใหม่ๆ และช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ข้ออันตรายที่เกิดขึ้นเมื่อขาดแคลน Collagen Type 2 คือปัญหาข้อเข่า เป็นอันดับต้นๆของอาการปวดข้อต่อ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ ที่มีการสร้างคอลลาเจนลดลง ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาข้อเสื่อมและอาการปวดอันน่าเบื่อตามมา

Collagen Type 2 ไม่ได้มีผลในกลุ่มผู้สูงอายุเท่านั้น แต่มีความสำคัญต่อทุกกลุ่มวัย เนื่องจากกิจกรรมประจำวันที่เกิดขึ้น เช่น เดิน ขึ้นลงบันได นั่งนานๆ หรือการวิ่ง ทั้งการใช้งานข้อต่อต่างๆ ซึ่งหากขาด Collagen Type 2 การรักษาสมดุลของกระดูกข้อต่อก็จะตกไป ทำให้สุขภาพข้อต่อเสื่อมลง การเสริม Collagen Type 2 อาจช่วยลดอาการบาดเจ็บ และเสริมสร้างเนื้อเยื่อในบริเวณที่เสียหายอย่างมีประสิทธิภาพ

เหตุใดคอลลาเจนทั้ง 5 ไทพ์ ถึงมีความสำคัญ

คอลลาเจนชนิดที่ 2 อาจเป็นสารสำคัญที่มีผลต่อร่างกายของมนุษย์ แต่คอลลาเจนไทพ์อื่นๆ ก็เช่นเดียวกันที่มีความสำคัญที่ได้เปรียบ แต่ละชนิดของคอลลาเจนมีความสัมพันธ์กับกลไกในร่างกายอย่างไม่เหมือนกัน และมีประโยชน์ที่แตกต่างกัน โดยคอลลาเจนเป็นโปรตีนโครงสร้างหลักที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างเนื้อเยื่อทั่วร่างกาย ตั้งแต่ผม ขน ผิวหนัง ไปจนถึงภายในเซลล์ เช่นกระดูก กล้ามเนื้อ ผนังหลอดเลือด รวมถึงเส้นใยชั้นผิว และอีกมากมาย แต่ละชนิดของคอลลาเจนมีหน้าที่แตกต่างกันและทำงานร่วมกันเพื่อความสมบูรณ์ของร่างกาย จึงสรุปได้ว่า คอลลาเจนทุกชนิดมีความสำคัญและไม่ควรขาดเด็ดขาดในร่างกายของเรา

การเพิ่ม คอลลาเจนทั้ง 5 ไทพ์ เพิ่มได้อย่างไร

เพิ่มคอลลาเจนในร่างกายไม่ใช่เรื่องยาก เราสามารถทำได้โดยวิธีต่าง ๆ ดังนี้

บริโภคอาหารที่มีโปรตีน

การบริโภคโปรตีนเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มคอลลาเจนในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ คอลลาเจนถือเป็นโปรตีนหนึ่ง โดยการบริโภคอาหารที่มีโปรตีนเช่นเนื้อสัตว์ นม ไข่ ธัญพืช และน้ำซุปเคี่ยวกระดูก จะช่วยเพิ่มคอลลาเจนให้ร่างกายได้เป็นอย่างดี

บริโภคอาหารส่งเสริมการผลิตคอลลาเจน

รับประทานอาหารที่ส่งเสริมการผลิตคอลลาเจนในร่างกาย เช่น ผักสีเขียวเข้มที่มีลูทีน ผลไม้สีแดงและผักที่มีไลโคพีน ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองที่มีเจนีสทีน จะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนได้

บริโภคอาหารที่เสริมคอลลาเจน

ในกรณีที่สารอาหารจากอาหารที่รับประทานและไม่เพียงพอต่อความต้องการ, สามารถเพิ่มคอลลาเจนผ่านผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจน ซึ่งช่วยเสริมคอลลาเจนให้ครบถ้วนทั่วร่างกาย โดยเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้โดยตรง

ประโยชน์ของCollagen type 2

ประโยชน์ของCollagen type 2

หลายคนอาจรู้ว่าคอลลาเจนไทพ์ทูสามารถช่วยเรื่องระบบกระดูกและข้อต่อต่าง ๆ แต่คุณทราบหรือไม่ว่านอกจากการช่วยเรื่องข้อต่อแล้ว คอลลาเจนไทพ์ทูยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ ต่อร่างกายอีกมากมาย เราได้รวบรวมข้อดีของคอลลาเจนไทพ์ทูไว้แล้ว ดังนี้:

  1. ช่วยบรรเทาอาการข้อเข่าเสื่อม, ปวดข้อ, และปวดหลัง เป็นต้น
  2. ช่วยซ่อมแซมกระดูกอ่อนที่สึกหรอ
  3. ลดอาการอักเสบของผู้ที่ป่วยเป็นโรคไขข้อรูมาตอยด์ หรือข้อเข่าเสื่อม เป็นต้น
  4. ช่วยลดเลือนริ้วรอย, ความหย่อนคล้อย, และซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพ
  5. ช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของเซลล์ในร่างกาย

นอกจากนี้, งานวิจัยโดย James P. Lugo และทีม ในปี ค.ศ. 2013 ได้รายงานว่า คอลลาเจนไทพ์ทูที่ยังไม่ถูกแปรสภาพ ( Undenatured Collagen Type II ) สามารถช่วยบรรเทาอาการข้อเข่าเสื่อมได้ดีกว่าการรับประทานกลูโคซามีนและคอนดรอยติน ผลลัพธ์จากการทดลองรับประทานคอลลาเจนไทพ์ทูที่ยังไม่ถูกแปรสภาพในปริมาณ 40 มิลลิกรัม/วัน เป็นเวลา 120 วัน แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงของอาการข้อเข่าเสื่อมอย่างต่อเนื่องและดีขึ้น

Collagen type 2 กับการรักษาข้อและข้อเขาเสื่อม

Collagen type 2 ได้รับการศึกษาอย่างแพร่หลายและมีผลงานวิจัยจำนวนมาก บทบาทของมันในวงการแพทย์ได้รับการยอมรับ โดยจะนำไปใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีโรคข้อเสื่อม เราสามารถสรุปการรักษาของคอลลาเจนชนิดที่ 2 ได้ดังนี้

แก้อาการปวดเข่า

การปวดเข่าเป็นสัญญาณชัดเจนที่บอกว่าข้อเข่ากำลังเสื่อมอย่างมีนัยสำคัญ การรับประทานคอลลาเจนชนิดที่ 2 ช่วยลดอาการปวดเข่าได้ มันช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่เสื่อมหรือทุบทุนของส่วนประกอบบริเวณข้อต่อซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการปวด

จากการศึกษาของ James P. Lugo และเพื่อนในปี 2013 กับกลุ่มอาสาสมัครจำนวน 55 คนที่มีสุขภาพดีและไม่มีประวัติของโรคข้อเข่าเสื่อม แต่มีอาการปวดข้อจากการใช้งานและการออกกำลังกาย กลุ่มหนึ่งได้รับคอลลาเจนชนิดที่ 2 40 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนกลุ่มอีกหนึ่งได้รับยาเสพติด ทุกวันต่อเนื่องเป็นเวลา 120 วัน

ผลลัพธ์จากการทดลองพบว่ากลุ่มที่ได้รับคอลลาเจนชนิดที่ 2 มีความยืดหยุ่นของข้อเข่าดีขึ้นและช่วยลดอาการปวดข้อจากการออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพ

ดังนั้น คอลลาเจนชนิดที่ 2 ถือเป็นคอลลาเจนที่มีประสิทธิภาพในการช่วยรักษาอาการปวดเข่าและอาการปวดข้อที่เกิดขึ้นจากการออกกำลังกายได้อย่างดี

รักษาอาการข้อเข่าเสื่อม

คอลลาเจนชนิดที่ 2 ถือเป็นคอลลาเจนที่ทำหน้าที่สำคัญในการฟื้นฟูข้อเข่าที่เสื่อมลง โดยมีความสามารถในการช่วยซ่อมแซมข้อต่อและเนื้อเยื่อที่เสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพ การศึกษาพบว่า Collagen type 2 ไม่เพียงทำให้อาการปวดลดลงเท่านั้น แต่ยังเป็นคอลลาเจนที่ช่วยระบบส่งเสริมการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในข้อต่อสำหรับผู้ที่มีปัญหาน้ำหล่อเลี้ยงในข้อต่อเมื่อมีปัญหาน้ำร่วงของข้อ

จากการศึกษาในปี 2012 โดย Alexander G. Schauss และเพื่อน ได้ทำการศึกษาผลของ Collagen type 2 ที่สกัดจากกระดูกช่วงอกของไก่ ในผู้ป่วยอาสาสมัครโรคข้อเข่าหรือสะโพกเสื่อมจำนวน 80 คน โดยให้กลุ่มหนึ่งรับประทานคอลลาเจนชนิดที่ 2 2 กรัมต่อวัน ส่วนกลุ่มอีกหนึ่งได้รับยาเสพติดเป็นระยะเวลา ติดต่อกันเป็นเวลา 70 วัน

การทดลองพบว่า กลุ่มที่รับประทานคอลลาเจนชนิดที่ 2 มี VAS Score (การวัดระดับความเจ็บปวด) และ WOMAX Score (การประเมินผลการรักษาข้อเข่า) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และไม่มีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น นอกจากนี้กลุ่มที่รับประทานคอลลาเจนไทพ์ทู ยังลดการใช้ยาแก้ปวดพาราเซตามอล ในเวลาเดียวกันกับกลุ่มที่รับยาเสพติด

ดังนั้น คอลลาเจนไทป์2คือ สิ่งที่น่าสนใจและเป็นตัวช่วยที่ดีไม่เพียงเป็นการรักษาข้อเข่าเสื่อมอย่างดีเท่านั้น แต่ยังเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมในการบำรุงรักษาข้อเข่าด้วยครับ

กลูโคซามีน กับ คอลลาเจนไทป์2คือ

โปรตีนไกลโคโปรตีนเป็นสารสำคัญที่ช่วยสร้างเนื้อเยื่อในร่างกายของเรา รวมถึงกระดูกอ่อนผิวข้อและเนื้อเยื่ออื่น ๆ โดยมีส่วนสำคัญอย่างกรดอะมิโนไกลโคสามิโน เป็นส่วนหนึ่งของโปรตีนที่มีความยืดหยุ่นเพื่อรองรับแรงกระแทกจากการเคลื่อนไหวของกระดูกข้อต่อได้ดี

เมื่อเราเติบโตมากขึ้น กระดูกอ่อนผิวข้อจะเริ่มแสดงอาการกร่อนลง ซึ่งส่งผลให้น้ำไขข้อลดลง และเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคข้อเข่าเสื่อม การใช้กลูโคซามีนในการรักษาหรือชะลอความเสื่อมของข้อเข่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

ในปัจจุบัน กลูโคซามีนมีอยู่ใน 2 ประเภท คือยาที่ใช้รักษาโรค และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ในประเทศไทย เพียงแต่กลูโคซามีนซัลเฟต ต้องได้รับการสั่งจากแพทย์เท่านั้น

ตามงานวิจัยระดับคลินิกโดย David C Crowley และทีม ในปี 2009 พบว่าการรับประทานคอลลาเจนไทพ์ทู ขนาด 40 มิลลิกรัมต่อเนื่องกันเป็นเวลา 90 วัน มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการของภาวะโรคข้ออักเสบอย่างมีนัยยะ โดยเมื่อเปรียบเทียบกับการรับประทานกลูโคซามีน 1,500 มิลลิกรัม และคอนดรอยติน 1,200 มิลลิกรัม จากอาการแสดงต่างๆ ของผู้ที่เจ็บป่วยโรคข้อ เช่น ความสะดวกในการเคลื่อนไหวร่างกาย และไม่พบผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม การใช้กลูโคซามีนในการชะลออาการข้อเข่าเสื่อมนั้นเหมาะสำหรับผู้ป่วยระยะที่ 1-2 ที่มีอาการปวดเข่าหรือเสียงดังในข้อเข่า เมื่อข้อเข่าเสื่อมระดับรุนแรงมาก เช่น ข้อเข่าโก่ง หรือมีเอกเรย์แสดงว่ากระดูกข้อเข่ามาชนกันโดยไม่มีช่องว่าง การใช้กลูโคซามีนอาจจะไม่ช่วยให้ขาดีขึ้น

คอลลาเจนไทป์2 ช่วยเรื่องการบำรุงข้อและกระดูกอย่างไร?

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าคอลลาเจนชนิดที่ 2 หรือคอลลาเจนไทพ์ทู เป็นสารที่ช่วยในการบำรุงกระดูกและข้อโดยมีคุณสมบัติที่ช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่เสื่อมของข้อต่อ โดยการส่งเสริมการสร้างกระดูกอ่อนและกระตุ้นการสังเคราะห์เซลล์ใหม่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังช่วยในการเพิ่มระดับของกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) และลดการทำงานของเอนไซม์ที่ย่อยสลายน้ำภายในข้อ

ดังนั้น การมีคอลลาเจนไทพ์ทูเพียงพอในร่างกายจะช่วยในการสร้างกระดูกอ่อนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้เซลล์ใหม่สามารถแทนที่เซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพได้ และรักษาสมดุลของน้ำหล่อเลี้ยงข้ออย่างเหมาะสม ซึ่งสามารถช่วยลดอาการปวดและความอักเสบของข้อ ทำให้มี ความสะดวกในการเคลื่อนไหวร่างกาย ได้ดียิ่งขึ้น

ทำไมร่างกายของคนเราจึงขาดคอลลาเจนไม่ได้

คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีสัดส่วนสูงที่สุดในร่างกาย เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเชื่อมเซลล์เข้าด้วยกัน เหมือนกาวธรรมชาติที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของเซลล์ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผิวเรียบเนียน คอลลาเจนยังส่งผลให้ระบบ หลอดเลือด แข็งแรง เลือดไหลเวียนได้อย่างดี และสนับสนุนความแข็งแรงของกระดูกอ่อนและข้อต่อ

เมื่อเข้าสู่วัยทอดโลก ความสามารถในการสร้าง คอลลาเจน ของร่างกายจะลดลง ซึ่งเริ่มตั้งแต่อายุ 20 – 25 ปี คอลลาเจนในร่างกายจะลดลงเฉลี่ยปีละ 1-1.5% ทำให้ผิวเริ่มหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย และซีดเท่าขึ้น เนื่องจากคอลลาเจนลดลง นอกจากอายุมากขึ้น ยังมีปัจจัยอื่นๆ เช่น พฤติกรรมการใช้ชีวิต การบริโภคอาหาร และการสัมผัสกับรังสีอุลตร้าไวโอเลต ที่ทำให้การผลิตคอลลาเจนในร่างกายลดลงเร็วขึ้น การเสริมคอลลาเจนอาจช่วยลดผลกระทบของอาการเสื่อมสภาพของผิวและร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากร่างกายขาด Collagen Type 2 จะส่งผลอย่างไร

หากร่างกายขาด Collagen Type 2 จะส่งผลอย่างไร

แม้ว่าร่างกายสามารถสร้างคอลลาเจนได้เอง แต่การรับประทานคอลลาเจนเสริมก็มีความสำคัญ เนื่องจากขาดคอลลาเจนไทพ์ทู อาจทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ได้ เช่น

  • ข้อต่อและกระดูกทั่วไปในร่างกายอาจเสื่อมสภาพ
  • อาจมีอาการปวดที่หมอนรองกระดูกสันหลัง ข้อเข่า และเอว เป็นต้น
  • ระบบไหลเวียนโลหิตอาจมีปัญหา
  • ระบบการเผาผลาญไขมันอาจทำงานช้าลง
  • สมานแผลที่ต้องการคอลลาเจนอาจเยื้องช้าลง
  • เส้นเอ็น อาจยืดหยุดน้อยลง
  • เส้นผมอาจขาดหลุดร่วงได้ง่าย

การรับประทานคอลลาเจนเสริมจึงมีบทบาทสำคัญในการรักษาความสมดุลของร่างกายและช่วยลดอาการเสื่อมสภาพของกระดูกและข้อต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คอลลาเจนไทป์2หาได้จากที่ไหน

เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยชรา ประสิทธิภาพในการสร้างคอลลาเจนในร่างกายอาจลดลง แม้ว่าร่างกายมนุษย์สามารถสร้างคอลลาเจนเองได้ ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ระดับสารอนุมูลอิสระที่ส่งผลต่อความสมบูรณ์ของคอลลาเจนในร่างกาย อาจทำให้การสร้างคอลลาเจนลดลงอย่างรวดเร็ว สิ่งเหล่านี้อาจทำให้ร่างกายขาดคอลลาเจนและคอลลาเจนไทป์ 2 ได้รับผลกระทบชัดเจนขึ้น

การขาดคอลลาเจนไทพ์ทูหรือมีปริมาณไม่เพียงพออาจทำให้เกิดโรคข้อเข่าเสื่อม และเสี่ยงต่อการเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมเป็นอันดับแรก ดังนั้น ไม่ควรปล่อยให้ร่างกายขาดแคลนคอลลาเจนไทพ์ทู ตามนี้คุณสามารถเสริมคอลลาเจนไทพ์ทูได้โดยการบริโภคอาหาร ดังนี้

อาหารที่เสริมคอลลาเจนได้

  • เนื้อสัตว์ ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาทู
  • สาหร่ายทะเล เห็ด ผักผลไม้ เช่น ผักโขม ผักปวยเล้ง คะน้า บรอกโคลี

ผลิตภัณฑ์อาหารที่เสริมคอลลาเจน

  • สำหรับบุคคลที่ต้องการเสริมคอลลาเจนไทพ์ทู สามารถรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มี คอลลาเจนไทป์2คือ ส่วนสำคัญ เพื่อบำรุงกระดูกและข้อได้ด้วย

ด้วยความสำคัญของคอลลาเจนในร่างกาย การรักษาปริมาณที่เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายปรับสภาพที่ดีและลดโอกาสเกิดโรคข้อกระดูกในอนาคต

เสริมคอลลาเจนไทพ์ทูด้วยอาหารหลากหลายชนิด

เพื่อเสริมคอลลาเจนไทพ์ทูให้กับร่างกาย อาหารที่เป็นแหล่งของสารอาหารนี้มีหลากหลายประเภท ดังนี้

  1. กระดูกวัว และกระดูกอ่อนบริเวณหน้าอกของไก่
  2. ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และปลาทู
  3. สาหร่ายทะเล
  4. เห็ดบางชนิด
  5. ผักใบเขียว เช่น ผักโขม ผักปวยเล้ง คะน้า และบรอกโคลี
  6. อาหารเสริมที่มีสกัดคอลลาเจน

การบริโภคอาหารเหล่านี้เป็นทางเลือกที่ดีในการเสริมคอลลาเจนไทพ์ทูไว้ที่สมบูรณ์สำหรับความแข็งแรงและสุขภาพของร่างกายของทุกคนในทุกวัย ดังนั้น ควรคำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการและเลือกการบริโภคอาหารอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับสุขภาพร่างกายของเราทุกวัน

คำแนะนำการกิน Collagen Type 2

ปริมาณคอลลาเจนไทพ์ทูที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ สุขภาพ และสภาวะของผู้ใช้ จากงานวิจัยส่วนใหญ่พบว่าการบรรทาอาการปวดข้อ อาการอักเสบข้อ หรือโรครูมาตอยด์ด้วยการทาน คอลลาเจนไทป์2 อย่างน้อย 40 มก. ต่อวัน จะมีผลบอกเป็นบวก อย่างไรก็ตาม ควรระวังเรื่องนี้

ผลข้างเคียงของ Collagen Type 2

  • การรับประทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ แสบร้อนกลางอก ท้องร่วง หรือท้องผูก
  • บุคคลที่มีอาการแพ้ไก่หรือไข่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ คอลลาเจนไทป์2 เพราะอาจส่งผลให้เกิดอาการแพ้ได้
  • หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรไม่ควรใช้สารนี้เนื่องจากข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยยังไม่ชัดเจน

การบริโภค Collagen Type 2

  • Collagen Type 2 สามารถรับประทานได้ตลอดเวลา เพราะกระเพาะอาหารสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้ตามปกติโดยไม่มีผลข้างเคียง
  • ควรทานคอลลาเจนอย่างสม่ำเสมอในแต่ละวันตามความสะดวก เช่น หลังมื้อเช้าหรือก่อนนอน

ด้วยความสำคัญของการบริโภคคอลลาเจนในชีวิตประจำวัน คุณสามารถทานตามเวลาที่เหมาะสมโดยไม่มีข้อจำกัด เพื่อให้ร่างกายของคุณได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่และรักษาสุขภาพของข้อต่อให้ดีอยู่เสมอ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *